ลิลิตความงดงามที่ยั่งยืนจากธรรมชาติที่แท้จริง

เป็นเพื่อนกันมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เคยทำงานด้วยกัน จนแยกย้ายไปทำงานตามความถนัดของแต่ล่ะคน จนถึงวันที่แต่งงานมีครอบครัวมีลูกน้อยและคิดว่าถึงเวลาที่น่าจะเริ่มต้นทำธุรกิจจากสิ่งที่รัก จึงจับมือจากเพื่อนรักมาสู่คู่หูทางธุรกิจ ระหว่าง ลูกยอ-กาซะลอง หลิมกำเนิด และอ้อ-ชัชชญา ธรรมารักษ์ สองเพื่อนซี้ ที่ออกจากงานมาดูแลลูกน้อยและทำงานฟรีแลนซ์กันมาหลายปี

วันนี้เธอทั้งคู่ได้เริ่มธุรกิจเล็กๆที่เริ่มจากความชอบและเพื่อแก้ปัญหาผิว ที่ทั้งคู่มีและยังไม่มีแบรนด์ใดที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกจุดตามที่ต้องการ นั่นคือออยล์บำรุงผิวชื่อ”Lilit ลิลิต”กาซะลอง เล่าว่า เธอนั้นสนใจเรื่องผิวพรรณหน้าตามาตั้งแต่วัยรุ่นเพราะผิวแพ้ง่ายจึงต้องบำรุงมากเป็นพิเศษ ใช้มาหมดทั้งเคาเตอร์แบรนด์ หรือแบรนด์ออแกนิค ก็ยังมีปัญหานิดหน่อยๆอยู่เรื่อยๆ บางยี่ห้อใช้ดีแต่เหนียวเหนอหนะ มันเยิ้มไปหน่อย บางแบรนด์ใช้ดีแต่กลิ่นแรงจนเวียนหัว ที่สำคัญเมื่อมีลูกก็อยากทำผลิตภัณฑ์ที่ลูกใช้ได้ด้วย

ชัชชญา บอกว่าเราทำงานเวิร์คฟอร์มโฮมกันเลยมีเวลาได้นั่งคิดยาวๆ โดยใช้เวลาในการคิดหาสูตรกันมาเกือบปีทดลองกับคนใกล้ตัว เพื่อนฝูง ญาติมิตร เทสกันมาเกือบ 8 เดือน ที่สำคัญลองใช้กับลูกชายวัย 8 ขวบของทั้งคู่ด้วย “ลูกชายผิวแพ้ง่าย โดนนิดหน่อยผื่นขึ้น เหนียวข้นมากเขาจะรำคานไม่สบายตัว เราลองกับลูก ถ้าลูกเราใช้ได้ไม่แพ้ก็ค่อนข้างมั่นใจ เราไม่แพ้ก็ดีมากแล้ว ถ้าลูกใช้ด้วยแล้วไม่แพ้นี่ถือว่าดีที่สุด” เธอเล่าอย่างมั่นใจ

ทั้งคู่บอกว่าประเทศไทยเมืองร้อน แดดแรง ถ้าใช้ครีมหรือออยล์บำรุงผิวที่เหนียวเข้มข้น ก็จะมันไม่สบายตัว แต่ถ้าไม่ใช้เลยแดดก็แรงทำร้ายผิวกาย เพราะเน้นบำรุงผิวบนใบหน้าไม่ค่อยให้ความสำคัญกับผิวกายเท่าไหร่ ทั้งที่ทุกคนอยากผิวเนียนสวยนุ่มนวลไม่หมองคล้ำ แต่หาครีมที่ดีๆไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมง่ายไม่ทั้งความมันไว้บนผิวยากมาก ครีมที่มาจากต่างประเทศก็เข้มข้นไปเพราะทำเพื่อคนเมืองหนาว พอมาทาแป้ปเดียวเหงื่อออกไหลมากับเหงื่อไปหมด บางยี่ห้อพอใช้ได้แต่ใส่กลิ่นดอกไม้แบบยกมาทั้งไร่ เดินไปแล้วกลิ่นยังอยู่เลย

ดังนั้นสิ่งที่ลิลิต มีคือตอบโจทย์ทั้งหมดที่ทั้งคู่ต้องการ คือบำรุงผิวเข้มข้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซับเร็ว ไม่มันไม่เยิ้ม กลิ่นไม่แรง ไม่หอมจนเวียนหัว ไม่มีสารเคมี ไม่ใส่กันบูด ไม่ใส่น้ำหอมสังเคราะห์มากจากธรรมชาติแท้ๆ100%  ตอนนี้มี 2 สีคือสีส้ม คือกลิ่นส้ม แซนด้าวู้ด และสีดำ จากส่วนผสม พริกไทยดำ ลาเวนเดอร์ ชาดำ มีกลิ่นหอมจากธรรมชาตไม่ใส่น้ำหอมใดๆ

“เพราะเราเชื่อว่าสัมพันธภาพระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เชื่อมโยงกันจนเกิดความสมดุลที่ลึกซื้ง และเอื้อคุณค่าให้แก่กันและกัน ลิลิตจึงใส่ใจและตั้งใจมอบคุณค่าดีๆมาสู่ผิวพรรณนอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้อยู่ภายใต้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เพราะหวังให้โลกนี้สวยงามและน่าอยู่ตลอดไป”

โดย วัตถุดิบหลักมาจาก Squalane oil น้ำมันธรรมชาติที่บริสุทธิ์สูง สกัดจากพื้ชตระกูลอ้อย เนื้อออยล์บางเบาซึมซับสู่ผิวได้เร็วลึกล้ำถึงระดับหนังแท้ เก็บกักความชื้นให้ผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น ลดริ้วรอยด่างดำ น้ำมันสควาแลน เป็นน้ำมันที่ใกล้เคียงกับที่ผิวผลิตได้ แต่มันจะหยุดผลิตเมื่ออายุ 20 ปี 

ส่วนผสมอีก 3 ตัวคือว่านหางจระเข้ ที่เติมน้ำให้ผิว ลดการอักเสบของแสงแดดที่สะสมในผิว ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวได้ดี อีกตัวคือน้ำมันรำข้าว เติมเต็มความสดใสให้กับผิว มีสารแกมมาโอรรีชานอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย และปกป้องแสงแดดให้กับผิว ถือเป็นมอยเจอไรซ์เซอร์จากธรรมชาติให้กับผิว สุดท้ายคือโจโจ้บาออยล์ ช่วยฟื้นฟูผิวที่อักเสบให้คืนตัวได้ดี เหมือนเป็นฟิล์มคอยช่วยเคลือบผิวกักเก็บความชุ่มชื่น อุดมไปด้วยวิตามินบี และ อี

ตอนนี้แบรนด์ลิลิต ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ก่อนในช่วงเปิดตัวได้เพียง 2 สัปดาห์ ขอลองทำตลาดสักพักจนปีหน้าอาจจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ อาจจะมีช้อปนำร่องสักแห่ง แล้วขายออฟไลน์ผ่านร้านที่จับกลุ่มความงาม การออกงานแฟร์เพื่อสุขภาพและความงาม ที่มักจะจัดช่วงปลายปี รวมทั้งขยายไลน์สินค้าเพิ่มให้ครบวงจรมากขึ้น เช่น แชมพูสระผม ลิปมัน ครีมอาบน้ำและมองเรื่องตลาดส่งออกด้วยเช่นกัน โดยมีหลักการทำงานที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทีล่ะก้าวแม้ช้าแต่มั่นคง