ชมรมนักข่าวไอทีคัมแบ็ก! เคาะ ‘วชิรหัตถ์’ นั่งนายกฯ ลั่นฟื้นชีพองค์กรยุค AI
ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITPC) กลับมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อย่างเป็นทางการในรอบกว่า 8 ปี จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 1 ได้มติเอกฉันท์เลือก “วชิรหัตถ์ นามบุตร” จาก TheReporterAsia นั่งแท่นประธานคนใหม่ พร้อมคณะกรรมการบริหารชุดใหม่เต็มคณะ ประกาศวิสัยทัศน์ชัดเจนในการฟื้นฟูองค์กรให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงขานรับและแรงสนับสนุนจากสมาชิกรุ่นพี่, สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งเป้าผนึกกำลังสร้างสรรค์กิจกรรมเสริมทักษะ เพิ่มสวัสดิการ และยกระดับคุณภาพนักข่าวไอทีให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยีในยุคที่ AI เป็นผู้นำ
วงการสื่อสารมวลชนสายเทคโนโลยีสารสนเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Press Club) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ITPC” ซึ่งเป็นการรวมตัวของสื่อมวลชนที่ปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวสารด้านไอทีจากหลากหลายสำนักข่าว 2ได้จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุม ชั้น B อาคารเดอะ ธารา (The TARA) แจ้งวัฒนะ 3 บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความคิดถึงของบรรดาสมาชิกรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ที่ได้มีโอกาสกลับมาพบปะกันอย่างเป็นทางการในรอบหลายปี การประชุมครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการประชุมตามวาระปกติ แต่เปรียบเสมือนเป็น “การเริ่มต้นใหม่” ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางของวงการสื่อไอทีในประเทศไทย
วาระสำคัญที่สุดของการประชุมคือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชมรมฯ ชุดใหม่ 4หลังจากที่คณะกรรมการชุดเดิมได้รักษาการมาเป็นระยะเวลานานกว่า 8 ปี ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนที่ทุกฝ่ายต่างจับตามอง พร้อมกันนี้ยังมีการจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “อนาคตข่าวไอทีในยุค AI นำองค์กร” 5 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของชมรมฯ ที่จะปรับตัวและก้าวไปข้างหน้าให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่กำลังส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจและสังคม
ประธานสภาการสื่อฯ ย้ำบทบาท-จรรยาบรรณสื่อไอทีในยุคเปลี่ยนผ่าน
การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เป็นผู้กล่าวเปิดงาน 6 ซึ่งการปรากฏตัวของประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการรวมตัวกันของชมรมฯ ในครั้งนี้ โดยคุณชวรงค์ได้กล่าวถึงบทบาทของสื่อมวลชนสายเทคโนโลยีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะผู้ที่ต้องทำความเข้าใจในเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และรอบด้านให้แก่สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย
ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติยังได้เน้นย้ำถึงหลักการด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณของสื่อมวลชน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับวงการ ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารที่ท่วมท้นและปัญหาข่าวปลอมที่อาจสร้างความเสียหายต่อสังคมและเศรษฐกิจในวงกว้าง การที่ชมรมฯ กลับมาเคลื่อนไหวอย่างแข็งขันและให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างองค์ความรู้ควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกันเองด้านจริยธรรม จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีและเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพของวงการสื่อสารมวลชนไทยโดยรวม คำกล่าวเปิดงานของประธานสภาการสื่อฯ จึงเป็นการปูทางและกำหนดทิศทางที่สำคัญสำหรับการเสวนาและการประชุมในวาระต่างๆ ที่ตามมาในวันนั้น
ส่งมอบภารกิจ สานต่อเจตนารมณ์ที่ยังค้างคา
นายณัฐพล ศรีภิรมย์ ประธานชมรมฯ ที่กำลังจะหมดวาระ ได้กล่าวต่อที่ประชุมถึงภาพรวมการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะมีกิจกรรมเสวนาเพื่อประโยชน์ของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าการไม่ได้จัดประชุมใหญ่มานานทำให้การขับเคลื่อนชมรมฯ ไม่เต็มที่นัก พร้อมกันนี้ได้ฝากภารกิจสำคัญ 2 ประการที่ถือเป็นเจตนารมณ์ที่อยากให้คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาช่วยผลักดันให้สำเร็จเป็นรูปธรรมอีกครั้ง นั่นคือ การรื้อฟื้นโครงการสวัสดิการประกันสุขภาพกลุ่ม สำหรับสมาชิกนักข่าว และ การจัดตั้งกองทุนการศึกษา เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในสายวิชาชีพ ซึ่งทั้งสองโครงการเคยเป็นสวัสดิการที่โดดเด่นของชมรมฯ ในอดีต
นายณัฐพลกล่าวว่า “อยากจะฝากสั่งกับกรรมการชุดใหม่ ที่จะกลับมาในเรื่องของการทำให้สมาชิกที่เป็นนักข่าวได้รับผลประโยชน์ อาทิเช่น เรื่องเกี่ยวกับทุนการศึกษาเก่าที่เราเคยมีแล้วก็เว้นว่างไว้ และในเรื่องเกี่ยวกับการทำสวัสดิการประกันสุขภาพของนักข่าว ที่เป็นสมาชิกของเรา ก็อยากจะฝากให้กับคณะกรรมการชุดใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการ”
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงความท้าทายในอดีต โดยเฉพาะการจัดเก็บค่าบำรุงสมาชิกองค์กรที่หยุดชะงักไปจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเสนอให้คณะกรรมการชุดใหม่เร่งดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นคงและเป็นรากฐานในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในระยะยาวต่อไป
เปิดตัว “วชิรหัตถ์” และทีมบริหารชุดใหม่ ประกาศวิสัยทัศน์ฟื้นองค์กร
หลังจากการหารือและเสนอชื่อ ที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก นายวชิรหัตถ์ นามบุตร หรือ พี่ช้าง จาก TheReporterAsia ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศคนใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารอีก 8 ท่าน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสื่อมวลชนรุ่นใหม่และผู้มีประสบการณ์ ประกอบด้วย
- คุณสุภัคสิณี ถิ่นอนุรักษ์ (แอน) จากรายการ TalkToday AmarinTV34
- คุณอิศรา เน้นแสงธรรม (Big) จาก Sanook.com
- คุณทรงกลด แซ่โง้ว (แสบ) จาก Biztalknews
- คุณสถาพร คงศรี (พี่เป็ด) จาก Techmoveon
- คุณนพฤทธิ์ กมลสุวรรณ (ต๋า) จาก BrickInfo
- คุณพิพัฒน์ เพิ่มผัน (อุ้ย) จาก Techhub
- คุณสุรเวช ฉัตรเชิดเจริญกุล (พี่อ๊าท) จาก Chairman Review
- คุณเอกพล ชูเชิด (อ๊อฟ) จาก Ceemeagain

นายวชิรหัตถ์ได้กล่าวขอบคุณความไว้วางใจจากสมาชิก พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาฟื้นฟูชมรมฯ ให้กลับมามีบทบาทและสร้างประโยชน์ให้กับสมาชิกและวงการอีกครั้ง
“ขอบคุณทุกท่านนะครับที่ให้ความไว้วางใจในการเป็นประธานชมรมฯ” นายวชิรหัตถ์กล่าวเริ่มต้น “ปีนี้คือผมตั้งใจที่จะจัดกิจกรรมให้มากขึ้น แล้วก็เรียกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งของสมาชิกสามัญและวิสามัญ แล้วก็สมาชิกองค์กรเนี่ยกลับมาเป็นเหมือนเดิมเหมือนตอนที่ก่อนที่จะเกิดโควิดขึ้นนะครับ ซึ่งก็จะมีกิจกรรมหลักของเราที่ทั้งเป็นในส่วนของ ‘Cyber Night’ ที่มีการรวมปาร์ตี้ของเราเพื่อให้กลุ่มสมาชิกนักข่าวแล้วก็แหล่งข่าวระดับสูงเนี่ย ได้มาใกล้ชิดกันอีกครั้ง”
ประธานชมรมฯ คนใหม่ยังได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะผลักดันนโยบายสำคัญต่างๆ อย่างจริงจัง โดยกล่าวเสริมว่า “ตัวสิทธิประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นประกันของทางนักข่าวของเรา หรือการอบรมเสวนาต่างๆ ก็พยายามจะจัดให้มีเกิดขึ้นในทุกๆ เดือน เพื่อที่เราจะได้อัปเดตความรู้ในการทำงานข่าวด้านไอทีกันจริงๆจังๆ แล้วก็ในส่วนของ ‘จิบน้ำชาเสวนา’ ที่เราทำงานประสานร่วมกับทางองค์กรพีอาร์ก็จะกลับมาให้คึกคักมากขึ้นครับ”
วิสัยทัศน์ดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสมาชิกในที่ประชุม ซึ่งมองว่าเป็นทิศทางที่ชัดเจนและตอบโจทย์ความต้องการของสื่อมวลชนในยุคปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีและการแข่งขันที่สูงขึ้น
เสียงหนุนจากทุกภาคส่วน ตอกย้ำความสำคัญของ ITPC ต่อเศรษฐกิจดิจิทัล
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ ITPC ไม่เพียงได้รับความสนใจจากสมาชิกภายใน แต่ยังได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากองค์กรพันธมิตรและผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการ ซึ่งต่างร่วมแสดงความยินดีและให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของคณะกรรมการชุดใหม่
ตัวแทนจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรแม่ ได้กล่าวยืนยันความพร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของชมรมฯ อย่างเต็มที่ และเห็นว่าการกลับมาเคลื่อนไหวอย่างแข็งขันของ ITPC ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับวงการสื่อโดยรวม
ขณะที่ตัวแทนจากองค์กรพันธมิตรภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้กล่าวถึงบทบาทที่สำคัญของชมรมฯ ในอดีตที่เคยมีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เช่น การลดค่าบริการอินเทอร์เน็ต และแสดงความเชื่อมั่นว่าในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ชมรมฯ จะสามารถกลับมามีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้และชี้นำสังคมได้อย่างมีคุณภาพอีกครั้ง
ตัวแทนจาก สวทช. กล่าวอย่างน่าสนใจว่า “ประเทศไทยก้าวสู่ยุค AI การขับเคลื่อนโดยธุรกิจมันไปของมันแล้ว แต่เบสพื้นฐาน กฎหมาย จริยธรรม จรรยาบรรณทุกสิ่งทุกอย่าง ผมคิดว่าชมรมฯ โดยชื่อของชมรมฯ แล้ว ผมคิดว่าความแหลมคมของชมรมฯ จะเป็นประโยชน์ในการเปลี่ยนประเทศเข้าสู่ยุคเอไอได้อย่างแข็งแกร่ง”
นอกจากนี้ สมาชิกรุ่นพี่และอดีตกรรมการหลายท่านยังได้ร่วมกันสะท้อนมุมมอง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “จิตอาสา” และ “ความร่วมมือ” ที่เป็นหัวใจของการทำงานในชมรมฯ พร้อมทั้งฝากความหวังให้คณะกรรมการชุดใหม่ช่วยกันดูแลประเด็นด้าน “จรรยาบรรณสื่อ” ซึ่งเป็นเรื่องที่ทวีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านโซเชียลมีเดีย และการเข้ามาของเทคโนโลยี AI ที่อาจสร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้กับวิชาชีพสื่อ
การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของ ITPC ในครั้งนี้จึงไม่ได้จบลงที่การเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการจุดประกายความหวังและส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ขององค์กรสื่อสารมวลชนสายเทคโนโลยีที่เคยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ การผนึกกำลังกันระหว่างคณะกรรมการชุดใหม่ที่มีไฟในการทำงานและแรงสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากทุกภาคส่วน คือบทพิสูจน์ถึงศักยภาพและความพร้อมของ ITPC ที่จะกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพข่าวสารและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนอีกครั้งหนึ่ง